วันที่ 16 ก.พ. 2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 10 คน โดยนามสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธนาวิปฝ่ายค้านได้กล่าวเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนแรก โดยกล่าวเพิ่มเติมหลังกล่าวเปิดญัตติอภิปราย 10 รัฐมนตรี ความว่า
16 กุมภาพันธ์ 2564 อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันที่จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
เพราะเป็นวันเริ่มต้นนับถอยหลังไปสู่จุดจบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 4 วันนับจากนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเปิดเผยความไร้ประสิทธิภาพ ขลาดเขลา เบาปัญญาของผู้บริหารประเทศอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉลของพลเอกประยุทธ์และคณะ จะเปิดหน้ากากของพลเอกประยุทธ์ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำร้ายประเทศชาติบั่นทอนประชาธิปไตย และคุกคามเสรีภาพของประชาชน
เวลา 6 ปี 8 เดือน 26 วันที่พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศนี้ ทั้งในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหาร และในฐานะนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบเพื่อพลเอกประยุทธ์และพวกพ้อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติพังพินาศ ประชาชนทุกข์ยากแสนเข็ญยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ ในรอบ 8 ทศวรรษ
ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ธุรกิจใหญ่น้อยล้มละลายทั่วทุกหัวระแหง ยิ่งกว่าวิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้งที่ผ่านมารวมกัน ประชาชนมีความทุกข์ยากอย่างถึงที่สุด อึดอัดคับข้องใจในชะตากรรมที่ต้องใช้ชีวิต ภายใต้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์มากที่สุด และสุดท้าย ต้องตัดสินใจจบชีวิตตัวเองมากที่สุด
ผู้ชายคนหนึ่งสิ้นหวังในชีวิตเพราะตกงาน จึงพาบุตรสาวตัวน้อยพเนจรไปพึ่งพาวัดแห่งหนึ่งในตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเมื่อทุกข์ที่สุดจนสุดจะทานทน เขาตัดสินใจโดดน้ำเพื่อหนีไปให้พ้นจากชีวิตที่มืดมน แต่ยิ่งน่าเศร้าใจ เมื่อบุตรสาววัย 5 ขวบร้องว่า “พ่ออย่าทิ้งหนู” แล้วกระโดดน้ำตามพ่อของเธอลงไป ในที่สุดจมน้ำตายทั้งคู่
ท่านประธานสภา ผมอยากรู้จริงๆ ว่า ในใจพลเอกประยุทธ์รู้สึกอย่างไร สะเทือนใจไปด้วยหรือไม่ ประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของพลเอกประยุทธ์ทุกข์ยากเช่นนี้ เขานอนหลับลงในแต่ละคืนได้อย่างไร เขายังยิ้มแย้มสำเริงสำราญได้อย่างไร
พลเอกประยุทธ์ไม่เคยทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้เมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ว่าจะคืนความสุขมาให้ประชาชน แทนที่พลเอกประยุทธ์ จะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เขากลับเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง แทนที่พลเอกประยุทธ์ จะคิดเก่ง ทำเก่ง ดังเช่นที่เขาเคยโอ้อวดว่า การบริหารประเทศไม่เห็นยากเลย
พลเอกประยุทธ์กลับบริหารประเทศแบบคิดไป ทำไป ไม่มีการวางแผน ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม กลับไปกลับมา และโยนความผิดให้ประชาชน ทำให้เมื่อเผชิญวิกฤตอย่างโรคโควิด -19 ประชาชนจึงทุกข์แสนสาหัส ธุรกิจใหญ่น้อยจึงทยอยล้มลง แม้ธุรกิจที่ยืนหยัดต้านทุกวิกฤตมาได้หลายสิบปี ก็ต้องปิดกิจการในยุคของพลเอกประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์ลืมไปว่า ประชาชน 67 ล้านคนจ่ายเงินเดือนให้เขามาทำงาน เพื่อทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น
ประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยประชาชน มากกว่าห่วงการรักษาอำนาจของตนเอง ประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรี ที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่านายกรัฐมนตรีที่สนใจแต่ความนิยมในโพลที่ลิ่วล้อบริวารเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา
ทนายอานนท์ เชื่อตน ติดคุก อีกนาน ต้องรอบ้านเมืองเปลี่ยนแปลง
ทนายอานนท์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า ตนน่าจะ ติดคุก อีกนาน วอนเพื่อนๆมีพลังใจสู้ต่อไป และหวังว่าจะได้ร่วมสู้ด้วยกันอีกครั้ง ทนายอานนท์ หรือ นายอานนท์ นำภา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในช่วงที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าพวกเขาน่าจะติดคุกอีกนาน หลังยังไม่มีคำสั่งให้ประกันตัว
โดยข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า “จดหมายจากเพื่อน
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณจุลลเจิม ยุคล ผลของการข่มขู่ศาลโดยการอ้างสถาบันของคุณได้ผล ตอนนี้ศาลไม่ให้สิทธิประกันตัวพวกเราที่เรียกร้องประชาธิปไตยและคงจำคุกอีกนานจนกว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลง
คุกกักขังและพรากเสรีภาพไปจากเราแต่ไม่สามารถพรากความคิดฝันถึงบ้านเมืองที่มีเสรีภาพมีความเท่าเทียม คุกอาจขังหนึ่งเม็ดฝนได้ แต่ไม่อาจขังพายุที่กำลังก่อตัวได้ พวกเราเชื่อมั่นในเพื่อนๆทุกคนว่าการขังพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งของใบเสร็จแห่งความอยุติธรรม และเป็นเชื้อไฟให้เราลุกขึ้นสู้ร่วมกันอีกครั้ง
ความยากลำบากในคุกคงยากที่จะบรรยายแต่คงเทียบไม่ได้กับความยากลำบากในการต่อสู้ของคนข้างนอก พวกเราข้างในหวังว่าเพื่อนๆจะมีพลังใจในการต่อสู้และเราขอให้สัญญาว่าจะรักษาพลังใจให้เข้มแข็งเพื่อออกไปสู้ร่วมกันอีกครั้ง
นอกจากนั้นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นำรูปภาพกรณีที่นายกฯสั่งให้พล.อ.ประวิตร ไปดูนายสิระ และน.ส.ปารีณา ที่ล่วงเกินนายชวน ก็ให้ตัดเงินเดือน ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันหรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ จ่ายเงินเดือนให้กับสมาชิกพรรคทุกเดือน ทุกคน ซึ่งตนสอบถามแล้ว พรรคจ่ายให้ส.ส.คนละ 2 แสนบาทต่อเดือน
แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี